การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทานอาหาร

สรุปวิจัยเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤกรรมการรับประทานอาหาร โดยการใช้นิทาน  ระดับปฐมวัย
                        จากที่ได้ศึกษาและทำความเข้าใจการทำวิจัยเบื้องต้นและเค้าโครงของงานวิจัย  ดิฉันได้ศึกษาและได้ยกตัวอย่างงานวิจัยมาจาก  โรงเรียนอสัมชัญระยอง  ซึ้งมีเนื้อหาโดยสรุปดั่งนี้                                                                                           เรื่อง  การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยใช้นิทาน






                              ผู้วิจัย

                                1. ครูสิรินุช ทัตตะพันธุ์
                                2. ครูยุพิน ชุมแวงวาปี
                                3. ครูสุภัทรา รัตนกูล

ระดับก่อนประถมศึกษา  ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา  2546



             ประกาศคุณูปการ

               งานวิจัยในชั้นเรียนฉบับนี้  สำเร็จลงได้ด้วยความร่วมมือของผู้วิจัยทั้ง 3 ท่านได้ร่วมกันสังเกตศึกษาข้อมูลต่างๆ และได้รับความร่วมมือจากคณะครูในระดับก่อนประถมศึกษา ได้กรุณาให้คำแนะนำ และตรวจเนื้อหาให้สมบูรณ์ คณะผู้วิจัยรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณา และขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้
               ขอกราบขอบพระคุณท่านประธานภราดาจักรกรี  อินธิเสน  อาจารย์ใหญ่  โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง  ได้ให้โอกาส และสนับสนุนให้งานวิจัยในชั้นเรียนได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และขอขอบพระคุณคณะผู้บริหารรวมถึงคณะครู คนงาน อีกหลาย หลายท่านที่มีส่วนร่วมในการวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ที่มิได้กล่าวนามในที่นี้ แต่มีส่วนช่วยให้การวิจัยฉบับนี้สมบูรณ์ด้วยดี
               


                                        บทคัดย่อ
พื้นฐานการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร และมีสุขภาพที่แข็งแรง ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย  อารมณ์ – จิตใจ  สังคม ตามแผนการพัฒนา
ของโรงเรียนโดยผ่านความร่วมมือของคณะครู คนงาน และนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา
                   การรับประทานอาหารเป็นการสร้างสุขลักษณะนิสัยที่ดีขั้นพื้นฐานในวัย 3 – 5 ปี  เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ – จิตใจ สังคม ตามสุขลักษณะมารยาทในการรับประทานอาหารจากการเล่านิทาน และ การร่วมโครงการคนดีศรีอนุบาล  เพื่อฝึกการมีมารยาท




สาเหตุของการทำวิจัย /ความสำคัญ
               จากการสังเกตของผู้วิจัยในด้านการรับประทานอาหารกลางวันของนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาขาดระเบียบวินัยในการรับประทานอาหารรวมทั้งมารยาท        นักเรียนส่วนมากสนทนากับเพื่อนขณะรับประทานอาหารเป็นเหตุให้เกิดเสียงดัง    เศษอาหารตกลงบนโต๊ะและพื้นเลอะเถอะสกปรกขาดระเบียบวินัยรวมถึงอันตรายที่เกิดจากการพูดคุยทำให้สำลักอาหารหรือบางครั้งอาเจียน 
              จากปัญหาที่พบคณะครูก่อนประถมศึกษาจึงได้ปรับพฤติกรรมของนักเรียนขณะเดินไปรับประทานอาหารจนถึงเตรียม

จุดมุ่งหมาย

              เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังให้นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษามีสุขลักษณะนิสัย และมารยาทที่
ดีในการรับประทานอาหาร  มีสุขภาพที่แข็งแรง


ตัวแปรที่ศึกษา
              ศึกษานักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาปีที่ 1 , 2 และ 3

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
              นักเรียนส่วนมากมีสุขลักษณะนิสัยมารยาทที่ดีในการรับประทานอาหารมีสุขภาพที่แข็งแรง
ร่วมถึงปลูกฝังระเบียบวินัยของนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาในขณะรับประทานอาหารที่โรงเรียน
และที่บ้าน

ขอบเขตของการวิจัย
1. เลือกกลุ่มนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาปีที่ 1, 2 และ 3
              2. จัดเตรียมอุปกรณ์ในการเล่านิทาน
              3. เล่านิทานให้นักเรียนฝังและสนทนาซักถาม
              4. สังเกต และประเมินนักเรียนขณะรับประทานอาหารกลางวัน (ใช้ใบสรุปการประเมินของ
                  โครงการคนดีศรีอนุบาล) สรุปการประเมินเป็นรายเดือน
              5. ประชุมครูเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมนักเรียนในการรับประทานอาหารกลางวัน
              6. สรุปการประเมินความพึงพอใจในการรับประทานอาหารของนักเรียน
              7. รวบรวมข้อมูล และสรุปผลการวิจัย

วิธีดำเนินการวิจัย
1.    เลือกกลุ่มนักเรียนที่ทำการวิจัย (ใช้นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาปีที่ 1, 2 และ 3)
2.    สังเกตพฤติกรรมในการรับประทานอาหารของนักเรียนก่อนประถมศึกษา
3.    ประชุมกันในกลุ่มผู้วิจัย 3 ท่าน สรุปพฤติกรรมนักเรียนขณะรับประทานอาหาร
4.    ใช้ตัวเลือกในการเล่านิทาน เรื่องลูกหมีปวดท้องให้นักเรียนฟังพร้อมสนทนาซักถามเกี่ยวกับเนื้อ
5.    สังเกตใบให้คะแนนการรับประทานอาหารของโครงการคนดีศรีอนุบาล และสอบถามจากคณะครู
6.    สรุปจากที่สังเกต
7.    ประชุมครู ครูพี่เลี้ยง และคนงาน เกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของนักเรียนให้เป็นระเบียบสะอาดเรียบร้อย
8.    ปฏิบัติหลังจากการประชุมพร้อมทั้งเสริมแรงในการชมนักเรียนที่รับประทานอาหารที่เรียบร้อยสะอาด
9.    สำรวจความพึงพอใจก่อน และหลังการประชุมเรื่องการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา

10.  สรุป และประเมินเป็น กราฟ
11.  รวบรวมข้อมูล และสรุปงานวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1.   นิทานเรื่อง “ลูกหมีปวดท้อง”
2.   ใช้แบบสังเกต และประเมินให้คะแนนการับประท(ของโครงการคนดีศรีอนุบาล)
3.   ใช้แบบสำรวจความพึงพอใจก่อน และหลังการประชุมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารของนักเรียน
4.   สร้างแบบสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับนักเรียนรับประทานอาหารก่อนและหลังการประชุมการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนปรับพฤติกรรมนักเรียนขณะรับประทานอาหาร
              นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาโรงเรียนอัสสัมชัญระยองส่วนมากสนทนากับเพื่อนขณะรับประทานอาหารและเล่นเป็นเหตุให้เกิดการขาดระเบียบวินัยเศษอาหารตกลงบนโต๊ะ และพื้นเลอะเถอะทำให้สกปรก และเกิดอันตราย  ขาดระเบียบวินัย


ผลการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนปรับพฤติกรรมนักเรียนขณะรับประทานอาหาร
              นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาโรงเรียนอัสสัมชัญระยองส่วนมากสนทนากับเพื่อนขณะรับประทานอาหารและเล่นเป็นเหตุให้เกิดการขาดระเบียบวินัยเศษอาหารตกลงบนโต๊ะ และพื้นเลอะเถอะทำให้สกปรก และเกิดอันตราย  ขาดระเบียบวินัย


ผลการวิเคราะห์ข้อมูลหลังจากเล่านิทาน และนำโครงการคนดีศรีอนุบาล
              นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาส่วนมาก  เดินแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อเข้ามาบริเวณโรงอาหาร  ไม่คุยเสียงดังรับประทานอาหารอย่างมีวินัยมีเศษอาหารตกลงบนโต๊ะ และพื้นน้อยลงเมื่อทานอาหารเสร็จนักเรียนมีระเบียบวินัยในการเตรียมตัวขึ้นชั้นเรียนมากขึ้น



ตารางแสดงผลความพึงพอใจในการรับประทานอาหารของนักเรียนก่อนประถมศึกษา  ก่อน และหลังการประชุมครูเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมนักเรียนในการรัประทานอาหารกลางวัน (โครงการคนดีศรีอนุบาล และการเล่านิทาน)
ข้อที่  ก่อนประชุม        หลังประชุม

       1มารยาทในการเดินมารับประทานอาหารของ
นักเรียน

          2มารยาทในการรับประทานอาหารของนักเรียน

      3ความสะอาดบริเวณที่รับประทานอาหาร

      4การปฏิบัติตามข้อตกลงในขณะรับประทานอาหาร

      5การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

      6ความพอใจขณะที่นักเรียนรับประทานอาหารเสร็จก็ขึ้นเรียน                         
       



สรุปผลแบบสอบถามความพึงพอใจ
ในการรับประทานอาหาร
ระดับก่อนประถมศึกษา
ปีการศึกษา 2546

          จากแบบสอบถามความพึงพอใจในการรับประทานอาหารระดับประถมศึกษา  ได้ส่งแบบสอบถามครูประจำชั้น  ครูพิเศษ  ครูพี่เลี้ยง และคนงานจำนวน 32 ชุด  ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 32 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100 ผลปรากฎว่า




สรุปผล
              นักเรียนส่วนมากมีมารยาทพร้อมที่จะปฏิบัติตามระเบียบในการเดินแถว     การรับประทานอาหาร และ มีนักเรียนบางคนยังปฏิบัติไม่ได้คุณครูต้องคอยกระตุ้นและแนะนำต่อไป  นักเรียนรู้จักรอคอยมีความตั้งใจในการทำความดีในการรับประทานอาหารอย่างมีมารยาท และมีระเบียบวินัยขั้นพื้นฐานที่ดี

ข้อคิดที่ได้จากงานวิจัย
              ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างมีมารยาทที่ถูกระเบียบ และเป็นผลดีต่อสุขภาพของนักเรียนด้วย

ภาคผนวก
1.   นิทานเรื่อง “ลูกหมีปวดท้อง”
2.   โครงการคนดีศรีอนุบาล
3.   ใบสังเกต และประเมินให้คะแนนการรับประทานอาหาร (ของโครงการคนดีศรีอนุบาล)
4.   แบบสำรวจความพึงพอใจก่อน และ หลัง การประชุมครูเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมนักเรียนในการรับประทานอาหาร


ตัวอย่าง /นิทานเรื่อง ลูกหมีปวดท้อง
              มีลูกหมีตัวหนึ่งกำลังออกไปชวนเพื่อนๆ  มาเล่นข้างนอกบ้าน เพื่อนของหมีได้แก่ แมว ลิง และ   กระต่ายสัตว์ทั้งสี่เล่นกันอย่างสนุกสนาน      จนกระทั่งแมวรู้สึกหิว   จึงชวนเพื่อนไปทานอาหาร
แมว ลิง และกระต่ายเตรียมอาหารมาจากบ้านส่วนหมีลืมเตรียมอาหารมาเพื่อนๆ   จึงแบ่งอาหารให้หมีทานด้วย    ส่วนหมีเป็นสัตว์ที่อ้วนใหญ่ทานอาหารที่เพื่อนๆแบ่งให้ไม่อิ่มจึงไปซื้ออาหารที่ข้างถนนมารับประทานอย่างไม่เรียบร้อยเศษอาหารตกพื้น  พออิ่มเรียบร้อยแล้วสัตว์ทั้งสี่ก็ชวนกันกับบ้านแต่ลูกหมียังไม่กับบ้านเพราะลูกหมีรู้สึกปวดท้องลงไปนอนกับพื้นที่มีเศษอาหารตกอยู่ และมีพวกมดมากินเศษอาหารที่ตกหล่นบนพื้นทำให้ลูกหมีโดนมดกัดร้องไห้หาแม่  แม่ได้ยินลูกหมีร้องว่าปวดท้องและเจ็บไปทั่งตัวแม่หมีจึงถามว่าไปกินอะไรมาหรือเปล่าจึงปวดท้อง  ลูกหมีจึงบอกว่า “ลูกหมีไปซื้อขนมข้างถนนทานอย่างเดียวเอง”  แม่บอกลูกหมีไปทานขนมที่ไม่สะอาดมีแมลงวันตอมลูกหมีจึงปวดท้องที่หลังเวลาซื้อขนมรับประทานลูกต้องเลือกขนมที่สะอาด และไม่มีสี และต้องเป็นขนมที่มีประโยชน์รวมถึงไม่ทำเศษอาหารตกลงพื้นจะได้ไม่โดนมดกัดถ้าเรากินอาหารที่มีประโยชน์ร่างการจะแข็งแรง และหน้าส่วยลูกหมีจึงตอบเสียงอ่อยๆว่า “ต่อไปนี้ลูกจะซื้อขนมที่เป็นประโยชน์ และไม่ซื้ออาหารที่ไม่เป็นประโยชน์รวมถึงจะทานให้เรียบร้อยด้วยครับ 



 ในวัยเด็กการสอนควรมีการสอดแทรกเทคนิคเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กเพื่อกระตุ้นและเรียกความสนใจไห้เด็กอยากรู้ในสิ่งที่เราต้องการสอนเขา  การไช้นิทานจึงเป็นส่วนหนึ่งของวิจัยฉบับนี้






                                                ขอบคุณมากค่ะ      นางสาวนันธิญา  หว่าจังหรีด   จิตวิทยาสำหรับครู ศ.ษ.0101                  

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒

ข้อบังคับที่ควรรู้ การศึกษาปฐมวัย